สร้างแอปที่ขับเคลื่อนโดย generative AI ด้วย MongoDB Atlas บน AWS

สร้างแอปที่ขับเคลื่อนโดย generative AI ด้วย MongoDB Atlas บน AWS

แอปที่ขับเคลื่อนโดย generative AI คืออะไร? ทำไมต้องใช้ด้วย MongoDB Atlas? เข้าใจไปด้วยกันในบล็อกนี้ครับ

Clock Icon2024.07.02

เอาล่ะครับหลังจากจบ session ของคุณจัสติน ผมต้องรีบวิ่งไปเข้าอีก session ต่อเพราะอย่างที่บอกครับว่าคุณจัสตินแกคุยสนุกและ ใช่ครับ แกคุยยาวจนเลยเวลาเลย ส่วนตัวผมเองก็สนุกกับการพูดของแกจนไม่ได้ดูเวลาเช่นกัน แต่เอาเป็นว่ากว่าจะเข้า session ที่ 2 ได้วิทยากรก็เริ่มบรรยายไปครึ่งทางแล้วครับ

โดย session มีชื่อว่า Build generative AI-powered apps with MongoDB Atlas on AWS -สร้างแอปที่ขับเคลื่อนโดย generative AIด้วย MongoDB Atlas บน AWS

(สำหรับเพื่อนคนไหนที่อยากอ่าน session ของคุณจัสตินสามารถอ่านได้จากลิงก์ด้านล่างนี้นะครับ
นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลในธุรกิจรีเทลและ CPG จากงาน AWS Summit Bangkok 2024)

Build generative AI-powered apps with MongoDB Atlas

Untitled design

ต้องสารภาพอย่างต่อเนื่องเลยครับว่านอกจากจะเข้าไปไม่ทันครึ่งแรกแล้ว เด็กจบคณะบริหารอย่างผมที่เข้าไปนั่งฝั่งเรื่องเชิงเทคนิกของเหล่า Developer ใน session นี้นี่ ไม่รู้เรื่องเลยครับ (อ่าวเฮ๊ย! ไหงงั้น?)

ไม่เกินจริงเลยครับ เพราะเนื้อหาที่วิทยากรใช้นั้นเป็นทั้งคณิตศาสตร์คอมพิวเตอร์ ภาษาที่ใช้เขียนโค้ดดิ้ง แถมบนหน้าจอมอนิเตอร์ยังมีเพียงแค่แถบโค้ดอีกต่างหาก ผมที่พยายามสุดกำลังเพื่อจะเข้าใจให้ได้นั้นกลับต้องยอมล่าถอยออกมา (อ่าว! ยอมแพ้แล้วอ่อ?)

20240530_123011

แต่ผมไม่ได้ถอยมาเพื่อหนีครับ แต่ถอยมาเพื่อเรียนรู้ต่างหาก ทั้ง MongoDB, แอปที่ขับเคลื่อนด้วย generative AI และทำไมต้องใช้ MongoDB Atlas บน AWS ด้วย

วันนี้เพื่อนคนไหนที่ยังไม่รู้จักข้อมูลด้านบนเหมือนผมในตอนนั้น ณ เวลานี้ เราไปเรียนรู้และทำความเข้าใจด้วยกันครับ ไปลุยกันเลย!

MongoDB คืออะไร

AWS Summit Bangkok 2024 (1)

MongoDB เป็นระบบจัดการฐานข้อมูลที่เก็บข้อมูลในรูปแบบของเอกสาร (document) แทนที่จะเป็นตารางเหมือนฐานข้อมูลแบบดั้งเดิมที่ใช้ SQL (Structured Query Language) ก็คือ MongoDB เนี่ยเป็นฐานข้อมูลแบบ NoSQL นั่นเอง

MongoDB มีข้อดีมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลในรูปแบบ JSON ซึ่งทำให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถเก็บข้อมูลที่มีโครงสร้างซับซ้อนหรือไม่แน่นอนได้, ความสามารถในการจัดการข้อมูลแบบอัตโนมัติ เช่น การทำสำรองข้อมูล (backup) และการฟื้นฟูข้อมูล (restore) ได้แบบง่าย ๆ ส่วนข้อมูลที่จะนำไปเก็บก็มีหลายแบบครับ อย่างที่พวกเราคุ้นเคยก็ ข้อมูลการใช้งานโซเชียลมีเดีย เป็นต้น

MongoDB Atlas

download

ส่วน MongoDB Atlas คือฐานข้อมูลของ MongoDB นี่ล่ะครับ แต่เป็น MongoDB ที่ทำงานบนระบบคลาวด์
ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานหมดห่วงและหมดเหนื่อยเรื่องการบริหารฮาร์ดแวร์หรือระบบด้วยตัวเองครับ เพราะหน้าที่นี้จะอยู่ในการดูแลของผู้ให้บริการคลาวด์ (Cloud Provider) ครับ

ซึ่งหมายความว่า ถ้าเราใช้ MongoDB Atlas บน AWS ทาง AWS จะช่วยดูแลเราในการดูแลระบบและจัดการฮาร์ดแวร์ให้เรานั่นเองครับ

การใช้งาน MongoDB Atlas เหมาะสำหรับทั้งองค์กรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่ต้องการลดภาระการจัดการฐานข้อมูลด้วยตนเอง และต้องการความยืดหยุ่นในการขยายระบบตามการเติบโตของธุรกิจครับ เพราะ MongoDB Atlas จะทำให้การใช้งานฐานข้อมูล MongoDB ง่ายขึ้นมากด้วยการจัดการและการดูแลระบบที่ทำโดยอัตโนมัติ ซึ่งช่วยลดภาระและความซับซ้อนในการบริหารจัดการฐานข้อมูล

Partner with AWS

Screenshot 2024-06-28 162906

การเป็นพาร์ทเนอร์กับ AWS ของ MongoDB ทำให้ MongoDB Atlas สามารถใช้งานบนแพลตฟอร์ม AWS ได้อย่างราบรื่น การเป็นพาร์ทเนอร์กับ AWS ช่วยให้ MongoDB Atlas มีความสามารถในการให้บริการที่มีประสิทธิภาพและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยผู้ใช้งานสามารถได้รับประโยชน์จากการผนวกรวมและการใช้บริการต่างๆ ของ AWS ได้อย่างเต็มที่ โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ MogoDB Atlas ได้ที่ AWS Marketplace

MongoDB Atlas in AWS Marketplace

What are generative AI-powered apps

8

แอปพลิเคชันที่ใช้ Generative AI คือแอปพลิเคชันที่ใช้เทคนิคปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ในการสร้างเนื้อหา ข้อมูล หรืออินไซต์ใหม่ ๆ ซึ่งเทคนิคเหล่านี้สามารถรวมถึงโมเดล Machine Learning ที่สร้างข้อความ รูปภาพ เพลง โค้ด และประเภทเนื้อหาอื่น ๆ ตัวอย่างของโมเดล Generative AI เช่น Chat GPT, DALL-E, และอื่น ๆ ที่สามารถสร้างข้อมูลสังเคราะห์, เสียง, และอื่น ๆ

ตัวอย่างของแอปพลิเคชันที่ใช้ Generative AI

  1. แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน: โมเดล AI ที่สร้างข้อความตอบสนองต่อคำถามของผู้ใช้เหมือนมนุษย์

  2. เครื่องมือสร้างเนื้อหา: แอปพลิเคชันที่ช่วยสร้างบทความ เรื่องราว โพสต์บล็อก หรือเนื้อหาที่เขียนอื่น ๆ

  3. การสร้างภาพและศิลปะ: เครื่องมือที่สร้างภาพหรือผลงานศิลปะใหม่จากคำอธิบายหรืออินพุตอื่น ๆ

  4. การประพันธ์เพลง: AI ที่ประพันธ์เพลงใหม่ ๆ

  5. การสร้างโค้ด: เครื่องมือที่สามารถสร้างโค้ดโปรแกรมจากคำอธิบายที่เป็นภาษาธรรมชาติ

  6. การสร้างข้อมูลสังเคราะห์: แอปพลิเคชันที่สร้างข้อมูลเทียมสำหรับการฝึกโมเดล Machine Learning เมื่อข้อมูลจริงขาดแคลนหรือเป็นข้อมูลที่อ่อนไหว

Build generative AI-powered apps with MongoDB Atlas on AWS

9

MongoDB Atlas ซึ่งเป็นบริการฐานข้อมูลบนคลาวด์ ให้บริการเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่นสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่ใช้ Generative AI ดังนี้ครับ

1.การจัดเก็บและการจัดการข้อมูล

โครงสร้างยืดหยุ่น: โมเดลเอกสารของ MongoDB ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถจัดเก็บโครงสร้างข้อมูลที่ซับซ้อนและแตกต่างกันได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับแอปพลิเคชัน AI ที่ต้องจัดการกับข้อมูลหลายประเภท

การปรับขนาดได้: MongoDB Atlas สามารถปรับขนาดได้อัตโนมัติ จัดการกับข้อมูลและปริมาณการใช้งานจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นสำหรับแอปพลิเคชัน AI ที่สามารถสร้างและประมวลผลข้อมูลจำนวนมากได้

2.การรวมข้อมูลและ ETL

Atlas Data Lake: ช่วยให้คุณสามารถสอบถามและวิเคราะห์ข้อมูลในรูปแบบและแหล่งที่มาแตกต่างกัน ช่วยในการรวมข้อมูลหลายชุดที่จำเป็นสำหรับการฝึกโมเดล AI

3.การประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์

Change Streams: ใช้ Change Streams ของ MongoDB เพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้เกิดการตอบสนองแบบไดนามิกของ AI และการประมวลผลข้อมูลแบบเรียลไทม์

Triggers: ตั้งค่า Triggers เพื่อเรียกใช้ฟังก์ชันโดยอัตโนมัติเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงในฐานข้อมูล ซึ่งสามารถใช้ในการเริ่มการคาดการณ์โมเดล AI

4.การรวมกับบริการ AI

การใช้งานร่วมกับ AWS: MongoDB Atlas ทำงานร่วมกับบริการ AI บนคลาวด์ เช่น AWS SageMaker ได้อย่างราบรื่นเพื่อใช้งานและจัดการโมเดล AI

ฟังก์ชันไร้เซิร์ฟเวอร์: ใช้ MongoDB Realm (ส่วนหนึ่งของ Atlas) เพื่อสร้างฟังก์ชันไร้เซิร์ฟเวอร์ที่สามารถโต้ตอบกับโมเดล AI และจัดการกับลอจิกของแอปพลิเคชัน

5.ความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ

การเข้ารหัสข้อมูล: MongoDB Atlas มีการเข้ารหัสข้อมูลในขณะที่จัดเก็บและส่งผ่าน ทำให้มั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลที่สำคัญที่ใช้โดยแอปพลิเคชัน AI

การปฏิบัติตามกฎระเบียบ: Atlas ปฏิบัติตามมาตรฐานหลัก เช่น GDPR, HIPAA, และ SOC 2 ซึ่งจำเป็นสำหรับแอปพลิเคชันที่จัดการกับข้อมูลที่อ่อนไหว

โดยการใช้ MongoDB Atlas คุณสามารถสร้าง จัดการ และปรับขนาดแอปพลิเคชันที่ใช้ Generative AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ประโยชน์จากความสามารถในการจัดการข้อมูลที่แข็งแกร่งและการรวมกับบริการ AI บนคลาวด์ได้อย่างราบรื่นเลยล่ะครับ

สรุป

เป็นไงกันบ้างครับเพื่อน ๆ พอจะเริ่มเห็นภาพกันบ้างแล้วไหมครับสำหรับภาพรวมทั้งหมดของหัวข้อในเซสชั่นนี้ ส่วนตัวผมต้องสารภาพเลยครับว่าแม้ตัวเองจะไม่ได้เรียนจบสายเทคโนโลยีโดยตรง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีนั้นมีส่วนสำคัญมาก ๆ ในชีวิตของผม (และเพื่อน ๆ ด้วยครับ) ดังนั้น การที่จับพลัดจับผลูเข้าไปนั่งในเซสชั่นนี้แบบไม่เข้าใจอะไรเลยจนต้องกลับมาศึกษาข้อมูลเนี่ย กลับทำให้ผมได้เริ่มรู้จักและค่อย ๆ เข้าใจถึงสิ่งที่เรียกว่าดาต้าเบสซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยีแขนงนี้

และตัวผมเองในตอนนี้ก็ชักจะสนใจในเทคโนโลยีพวกนี้ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วล่ะครับ เพราะยิ่งหาข้อมูลก็ยิ่งสนุก ถ้าเป็นไปได้เนี่ย ผมอยากจะย้อนกลับไปเลือกคณะเรียนใหม่จริง ๆ ฮ่า ๆ แต่เอาเป็นว่าถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีความเข้าใจในวิทยาการด้านนี้ มาแบ่งปันให้ผมหน่อยนะครับ เพราะผมยังใหม่มาก ๆ ในวงการนี้เลยครับ ขอขอบคุณล่วงหน้าเลยครับ

สำหรับวันนี้ พระเจ้าอวยพรครับ

この記事をシェアする

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.